มารู้จักฟีเจอร์ Android O และตัวเต็มๆ ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
สวัสดีครับ วันก่อนผมได้แชร์ว่าตอนนี้ขั้นตอนของการพัฒนา Android รุ่นใหม่ O นั้นสมบูรณ์สุดในระดับพัฒนาแล้ว และตกลงกับตัวเองว่าจะมาเล่ากันว่า ร...
สวัสดีครับ วันก่อนผมได้แชร์ว่าตอนนี้ขั้นตอนของการพัฒนา Android รุ่นใหม่ O นั้นสมบูรณ์สุดในระดับพัฒนาแล้ว และตกลงกับตัวเองว่าจะมาเล่ากันว่า รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง
วันนี้เลยมาเล่ากันสักหน่อย ตามประจำทุกปีครับ ตั้งแต่ผมเริ่มใช้งานโทรศัพท์ที่เป็นระบบนี้ เรื่องราวของ Android ที่ผมเขียนบล็อกไว้ทั้งหมด คลิกอ่าน
ตอนนี้ที่เขียนบล็อกนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่า O ปีนี้จะใช้ขนมหวานอะไร แต่เราเรียกขานชื่อว่า Android O ถึงตอนนี้เราเข้าสู่ DP3(Developer Preview 3) และเป็นรุ่นเสถียรในการพัฒนาแอพแล้ว(API) สำหรับนักพัฒนาพร้อมในตอนนี้ ซึ่ง API ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ต่อไป DP4 และสิ้นสุดตัวเต็มในอีก 2 เดือน ซึ่งก็คงเปิดตัวพร้อมชื่อของเค้าล่ะครับ และก็มี Google Phone มาด้วย(คาดการณ์ว่า คือ Google Pixel 2)
แต่ก่อนที่เราจะได้ใช้ของจริงในระดับผู้ใช้งาน เรามาดูว่ามีฟีเจอร์อะไรที่ปรับปรุง เพิ่มเติมบ้างครับ
รายการนี้เป็นฟีเจอร์ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น Picture-in-picture ก็เป็นการต่อยอดจาก Multi หน้าจอ และจัดการ Tasks ให้ดีขึ้น ดูจากภาพน่าจะเข้าใจขึ้นครับ
วันนี้เลยมาเล่ากันสักหน่อย ตามประจำทุกปีครับ ตั้งแต่ผมเริ่มใช้งานโทรศัพท์ที่เป็นระบบนี้ เรื่องราวของ Android ที่ผมเขียนบล็อกไว้ทั้งหมด คลิกอ่าน
ตอนนี้ที่เขียนบล็อกนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่า O ปีนี้จะใช้ขนมหวานอะไร แต่เราเรียกขานชื่อว่า Android O ถึงตอนนี้เราเข้าสู่ DP3(Developer Preview 3) และเป็นรุ่นเสถียรในการพัฒนาแอพแล้ว(API) สำหรับนักพัฒนาพร้อมในตอนนี้ ซึ่ง API ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ต่อไป DP4 และสิ้นสุดตัวเต็มในอีก 2 เดือน ซึ่งก็คงเปิดตัวพร้อมชื่อของเค้าล่ะครับ และก็มี Google Phone มาด้วย(คาดการณ์ว่า คือ Google Pixel 2)
แต่ก่อนที่เราจะได้ใช้ของจริงในระดับผู้ใช้งาน เรามาดูว่ามีฟีเจอร์อะไรที่ปรับปรุง เพิ่มเติมบ้างครับ
รายการนี้เป็นฟีเจอร์ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น Picture-in-picture ก็เป็นการต่อยอดจาก Multi หน้าจอ และจัดการ Tasks ให้ดีขึ้น ดูจากภาพน่าจะเข้าใจขึ้นครับ
ต่อมาเป็นการแจ้งเตือนที่ต่อยอดจากรุ่นเดิมเช่นกัน Notification dots ถ้าเรายังจำรุ่นก่อนหน้านี้ได้ ดูจากภาพนี้ก็ร้องอ๋อเช่นกัน
ต่อมาเป็น Autofill with Google รองรับการกรอกแบฟอร์มให้อัตโนมัติ เช่น ใส่ user มี password ให้เลย อันนี้ผมชอบนะ บังเอิญเป็นคนชอบ clear data บ่อย แต่สงสัยว่าถ้าเรา clear all data ฟังชั่นนี้จะยังใช้ได้อีกเปล่า(นั่งคีย์ user และ password กันเหนื่อยนะเวลาล้างเครื่องใหม่)
อันต่อไปก็คือการ Support Android TV มากขึ้น อันนี้ต้องลองใช้ดูว่าเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอย่างไรบ้าง
และ Smart Text Selection เป็นการใช้งานคล้ายๆ AI คือ ใส่ความฉลาดในการเลือกคลุมข้อความ แล้วแนะนำว่าจะน่าจะทำอะไรกับข้อความนี้
สำหรับ TensorFlow Lite น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ฝังในตัว Android แน่นอนเรามองไม่เห็นในรูปธรรม แต่เข้าใจว่าเค้าน่าจะคิดที่จะทำให้เครื่องตอบสนองกับผู้ใช้ได้ฉลาดขึ้น อันนี้ต้องคอยดูกันต่อไปครับ
ที่เหลือแน่นอนว่าเป็นส่วนของ System optimizations การปรับปรุงระบบต่างๆ ให้เร็วขึ้น เช่น Boot เร็วขึ้น ซดแบตน้อยลง อันนี้เป็นระบบที่ทำงานเบื้องหลังครับ ดีหรือเปล่าไม่รู้ต้องลองใช้งานครับ
ตอนนี้ก็มาถึง DP3 แล้ว รุ่นที่ลงได้ก็มีดังนี้ Pixel, Pixel XL, Pixel C, Nexus 5X, Nexus 6P, and Nexus Player ใครจับรุ่นต่อไปนี้อยู่ก็ไปลองกันได้เลยครับผม
เร็วเหมือนกันนะ ตั้งแต่ผมเริ่มจับ Android 2.0 ตอนนี้มาถึง 8.0 แล้ว ผมก็ติดตามความเปลี่ยนแปลงมาทุกๆ ปี แม้ 2 ปีหลังนี้จะไม่ค่อยได้จับคอมฯ มากนัก แต่ก็จับมือถือบ่อยอยู่ และก็ยังติดตามข่าวสารมาตลอดครับ
ผมยังคงชอบทางนี้อยู่และจะติดตามมาเล่ากันต่อไปเรื่อยๆ นะครับ วันนี้ไว้แค่นี้ก่อน
ขอบคุณภาพจาก : https://www.xda-developers.com และ https://android-developers.googleblog.com